วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เข้มปลอดภัย “บิ๊กตู่”

เข้มปลอดภัย “บิ๊กตู่” ประชุม ครม.สัญจรนราธิวาส กำชับทุกส่วนต้องไม่ทุจริต



วันที่ 21 ม.ค. 2563 ที่ห้องประชุม อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) ก่อนที่ในเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2563 (ครม.สัญจร) ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารยืนประจำจุด ทุกๆ 200 เมตร มีเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก (Black Hawk) บินตรวจ โดยเมื่อคืนวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พักค้างคืนในค่ายจุฬาภรณ์ กองพันทหารราบที่ 9 รักษาพระองค์ จ.นราธิวาสอ่านเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ทักทายกับบรรดานักศึกษาวิชาทหารหญิงชั้นปีที่ 4 และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมทักทายและร่วมถ่ายรูป จากนั้นเยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆ อย่างอารมณ์ดี อาทิ ผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกระจูดบ้านโคกพะยอม พร้อมชื่นชมว่ามีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ทดลองนวดคลายเส้นเพื่อแก้เมื่อย โดยพูดด้วยว่า “ช่วงนี้รู้สึกเมื่อย” ขณะที่ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสียบบัตรแทน หรือกรณีปัญหา นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รุกป่าเขาใหญ่
ขณะที่ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน พล.อ.ประยุทธ์ ยังเผยด้วยว่า จากการลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ก่อนการประชุม ครม.สัญจร ต้องขอบคุณ ครม.ทุกท่านที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม จุดต่างๆ ทั้งสามจังหวัดภาคใต้ ขณะเดียวกัน เห็นจากไลน์ที่ส่งภาพมา เป็นภาพที่ตนเองพอใจ ซึ่งทุกคนมีความสดชื่นเบิกบาน ประชาชนมีรอยยิ้มให้ทุกคน นั่นคือการทำงานของ ครม. ที่จะต้องให้ความสำคัญเรื่องการสร้างความใกล้ชิด พร้อมกับการสร้างความเข้าใจต่อประชาชนด้วยว่าเหตุใดเราจึงต้องมีโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงโอกาส สำหรับมาตรการเฉพาะหรือโครงการเฉพาะกลุ่ม ก็ถือเป็นอีกเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำทั้งสองอย่าง คือ การสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ ตลอดจนมาตรการเสริม มาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น